รู้จัก นายกฯใหม่ออสเตรเลีย เปลี่ยนจากขวามาซ้าย ผ่านชีวิตดราม่าวัยเด็ก

1 Views

  จันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565

แอนโธนี อัลบานีส คือ นายกฯใหม่ออสเตรเลีย ไม่เพียงเป็นนักการเมืองติดดิน ยังเคยเป็นเด็กที่มีชีวิตดราม่า แม่เลี้ยงมาตามลำพัง บอกว่าพ่อตายไปแล้ว

วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานประวัติ นายแอนโธนี อัลบานีส (หรือ อัลบาเนซี) ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรเลีย ผู้นำพรรคเลเบอร์ หรือพรรคแรงงาน แนวการเมืองซ้าย-กลาง ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษหลังเอาชนะนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีจากกลุ่มพันธมิตรพรรคลิเบอรัล-เนชันแนล ฝ่ายขวา ด้วยจำนวนส.ส. 72 ต่อ 55 ที่นั่งนายอัลบานีส วัย 59 ปี เป็นนักการเมืองที่เติบโตมาด้วยชีวิตกระเบียดกระเสียร จากการเป็นลูกคนเดียวของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกมาโดยลำพัง อาศัยเงินสงเคราะห์ อยู่บ้านเอื้ออาทรของรัฐ ในย่านแคมเปอร์ดาวน์ ชานเมืองของนครซิดนีย์

“สิ่งนี้บอกอะไรมากมายเกี่ยวกับประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเรา เมื่อลูกชายของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นผู้รับเงินเบี้ยเลี้ยงพิการ โตขึ้นมาในบ้านของรัฐที่ย่านแคมเปอร์ดาวน์ สามารถมายืนอยู่ต่อหน้าท่านในคืนนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย” นายอัลบานีสกล่าวบนเวทีฉลองชัยชนะ ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่จากผู้สนับสนุน“พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกที่เป็นคนรุ่นต่อไปได้ดีกว่าที่ตนเองมี แม่ผมเองก็ฝันอยากให้ผมมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม และผมเองก็หวังว่าการเดินทางในชีวิตนี้จะเป็นแรงบันดาลใจแก่ชาวออสเตรเลียให้ไปถึงดวงดาว” นาย อัลเบนัสกล่าว

ดราม่าวัยเด็ก-นึกว่าพ่อตายไปแล้ว
ชีวิตวัยเด็กของนายอัลบานีส เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า นอกจากเป็นครอบครัวโรมันคาทอลิกผู้ใช้แรงงานในสังคมอนุรักษนิยมของออสเตรเลีย ช่วงทศวรรษ 1960 แล้ว นายอัลบานิสยังได้รับการบอกเล่าว่า พ่อที่เป็นชาวอิตาเลียน ชื่อ คาร์โล อัลบานิส เสียชีวิตไปแล้วในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่นานหลังจากแต่งงานกับแม่ ชื่อ แมรีแอนน์ เอลเลอรี ลูกครึ่งไอริช-ออสเตรเลีย ได้ไม่นานต่อมา อัลบานีสโตขึ้นจนอายุ 14 ปีแล้ว แม่ที่เป็นผู้รับเงินเบี้ยเลี้ยงคนพิการจากอาการป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จึงบอกว่าจริงๆ แล้วพ่อของอัลบานีสยังไม่ตาย และแม่ไม่เคยแต่งงานกับพ่อ เพียงแต่ได้เจอกันตอนที่แม่ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เมื่อปี 1962 (พ.ศ.2505) ตอนนั้นพ่อนายอัลบานีสเป็นพนักงานต้อนรับบนเรือสำราญตอนที่แม่กลับซิดนีย์หลังจากท่องเที่ยวอยู่นาน 7 เดือนจากเอเชียไปถึงอังกฤษ ตอนนั้นท้องได้ 4 เดือนแล้ว ก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ตนเองที่อาศัยอยู่บ้านของรัฐที่แคมเปอร์ดาวน์ และคลอดนายอัลบานีส เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 1963 เมื่อทราบความจริงแล้ว นายอัลบานีสไม่อยากทำร้ายจิตใจแม่ จึงรอจนกระทั่งแม่จากโลกไปเมื่อปี 2002 (พ.ศ.2545) แล้วเริ่มตามหาพ่อ กระทั่งได้พบกันอย่างชื่นมื่นในปี 2009 ที่เมืองบาร์เล็ตตา ทางตอนใต้ของอิตาลี ระหว่างที่นายอัลบานีสเดินทางไปเยือนอิตาลี ในฐานะรมว.คมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน
ชีวิตลำบากทำให้เข้าใจคนจน

นายอัลบานีสเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพรรคแรงงานนาน 6 ปี จนได้ตำแหน่งสูงสุดเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่พรรคแรงงานได้เป็นรัฐบาลจนสิ้นสุดลงในการเลือกตั้งปี 2013 (พ.ศ.2556) มีผู้วิจารณ์ว่า นายอัลบานีสไม่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะภูมิหลังที่เคยยากจน แต่เพราะแนวนโยบายฝ่ายซ้ายที่ถูกโจมตี

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการหาเสียงมานาน 6 สัปดาห์ นายอัลบานีสกล่าวย้ำเสมอว่า ได้รีบบทเรียนชีวิตมาจากช่วงวัยเด็กที่ด้อยโอกาส ดังนั้นนโยบายของพรรคแรงงานจึงบรรจุเรื่องความช่วยเหลือให้คนซื้อบ้านครั้งแรกด้วย ท่ามกลางสภาพทางเศรษฐกิจที่ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงมากในขณะที่ค่าจ้างกลับตึงตัว พร้อมกันนี้ยังสัญญาจะทางลดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการเด็กให้กับพ่อแม่ที่ทำงาน และสร้างเสริมสวัสดิการบ้านพักผู้สูงวัยให้ดีขึ้น

ลั่นฟื้นฟูชื่อเสียงออสเตรเลีย
นายกฯ คนใหม่ได้ชื่อว่าเป็นฮีโของความหลากหลายทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย และเคยบรรยายถึงตนเองว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มีชื่อสกุลมาจากสายแองโกลหรือเซลติก ในรอบ 121 ปี นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งมาความที่มีเชื้อสายอิตาลี ทำให้คนอ่านนามสกุลของเขาต่างกันไป เช่น อัลบาบีส อัลบาเนซี หรือ อัลบานีซี ซึ่งเจ้าตัวเคยเอ่ยให้ฟังว่า ถ้าอ่านตามภาษาอิตาลี คือ อัลบาเนซี แต่เขาเองชอบที่จะออกเสียงว่า อัลบานีส และบอกสื่อมวลชนว่า ให้เรียกชื่อเล่นเขาแค่ “อัลโบ” ก็ได้นายอัลบานีสประกาศหลังได้รับชัยชนะว่า จะฟื้นฟูชื่อเสียงของออสเตรเลียบนเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภารกิจลดโลกร้อน ที่ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นายมอร์ริสัน นายกฯ คนเดิมเสียคะแนนไปมาก โดยผู้นำใหม่จะเสนอแผนลดการปล่อยคาร์บอนในที่ประชุมระหว่างประเทศเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ว่าที่ผู้นำคนใหม่ออสเตรเลียกล่าวด้วยว่า จะเริ่มสร้างความน่าเชื่อถือในออสเตรเลียอีกครั้ง เมื่อเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำ 4 ประเทศที่กรุงโตเกียว กับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายฟูมิโอ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  และนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย วันอังคารที่ 24 พ.ค.นี้ ส่วนนโยบายกับจีน นายอัลบานีสกล่าวว่าจะยังคงสานต่อแนวทางของรัฐบาลนายมอร์ริสันในด้านการแข่งขันยุทธศาสตร์กับจีนในภูมิภาคนี้ นายกฯคนเดิมยันทำผลงานไว้ดี

ด้านนายกฯ มอร์ริสัน วัย 54 ปี ผู้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง กล่าวยอมรับผลที่ออกมา และยินดีกับนายอัลบานีส แต่ยังกล่าวปกป้องผลงานของรัฐบาลฝ่ายขวา โดยเฉพาะการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และการทำให้ออสเตรเลียขึ้นมาอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง
รวมถึงด้านเศรษฐกิจที่ทำให้อัตราคนว่างงานลดต่ำลงที่สุดในรอบ 48 ปี คิดเป็นอัตราร้อยละ 3.9%.และด้านความมั่นคงที่ทำให้ออสเตรเลียเข้ารวมกลุ่ม  AUKUS กับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

อย่างไรก็ตาม จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ นายมอร์ริสันกล่าวว่า จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา

อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพตาก https://www.prachachat.net/world-news/news-936732